ผิวหน้าของแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป และเราสามารถแบ่งแยกประเภทผิวหน้าตามลักษณะผิวที่เกิดขึ้นของแต่ละคน การทำความรู้จักกับผิวของตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากเราทราบประเภทของผิว ก็สามารถเรียนรู้วิธีการดูแลผิวอย่างถูกต้อง และเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงได้อย่างเหมาะสม ส่งผลช่วยสร้างความกระจ่างใสให้กับใบหน้า มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลกระทบข้างเคียงอื่น ๆ จากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ผิดสูตร มาลองเช็กประเภทผิวหน้ากันเลยว่า ผิวของคุณเป็นแบบไหน
ผิวหน้ามีประเภทอะไรบ้าง ?
1.ผิวแห้ง (Dry Skin) ลักษณะของผิวที่มีระดับความมันน้อยกว่าปกติ ยิ่งถ้าเจออากาศเย็นหรือพึ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ จะรู้สึกตึงบ่อยครั้ง หากไม่ได้ดูแลตนเองอย่างถูกต้องหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ อาจส่งผลทำให้เกิดปัญหา ผิวลอกเป็นขุย เกิดรอยแดง รอยแตก อาการระคายเคือง คัน จนถึงการแสบผิว โดยผิวแห้งนั้นอาจมีสาเหตุมาจากอายุ พันธุกรรม พฤติกรรมดื่มน้ำน้อย การใช้ยาบางชนิดที่รุนแรงต่อผิว ตลอดจนการอยู่ในพื้นที่อากาศเย็นเป็นเวลานาน
2. ผิวมัน (Oily Skin) ผิวประเภทนี้จะตรงข้ามกับลักษณะแรกอย่างสิ้นเชิง ลักษณะของผิวมีน้ำมันบนผิวหน้า มักพบเจอความมันได้ง่ายมากโดยเฉพาะบริเวณ T-Zone บนใบหน้า รวมถึงจมูก คาง หน้าผาก ไปจนถึงผิวมันทั่วร่างกาย นอกจากเหงื่อหรือน้ำมันผิวจะออกง่ายแล้ว ยังมักสร้างปัญหาสิวอุดตัน และสิวอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งสาเหตุการเกิดผิวมันนั้นเกิดจากต่อมไขมันผลิต Sebum ออกมามากผิดปกติ
สูตรเฉพาะ อ่อนโยนสำหรับผิวหน้า และช่วยลดความมันบนใบหน้า บรรเทาอาการคัน แดง ระคายเคือง ในทันทีหลังใช้ (Combination Skin) ลักษณะของผิวเป็นการผสมกันระหว่างผิวแห้งกับผิวมัน บางจุดอาจมีความมันสูง เช่น T-Zone บนใบหน้า แต่บางจุดอาจมีผิวแห้งกร้าน ลอกเป็นขุยง่าย เช่น แก้ม กราม และสาเหตุหลักนั้นเกิดจากกรรมพันธุ์ จึงต้องสังเกตตนเองว่าบริเวณไหนมีอาการผิดปกติใดเกิดขึ้นหรือไม่
4. ผิวปกติ (Normal Skin) ประเภทผิวในฝันของทุกคน โดยผิวปกตินี้จะมีลักษณะคือ มีความเรียบเนียน ไม่มันและไม่แห้ง รูขุมขนเล็ก สีอมชมพูสว่างใส ไม่หมองคล้ำ ไม่แพ้ง่าย แม้บางช่วงอาจเกิดสิวได้บ้างแต่ก็เป็นเรื่องปกติ โอกาสเกิดปัญหาผิวมีน้อยกว่าผิวประเภทอื่น
5. ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin) ผิวประเภทสุดท้ายเป็นผิวที่เกิดปัญหาได่บ่อย เนื่องจากมีความไวต่อสิ่งแวดล้อมมาก หากมีบางสิ่งที่แพ้มาสัมผัสก็มักเกิดอาการขึ้นได้ทันที เริ่มตั้งแต่การมีผื่นแดงขึ้น คันคะเยอ บางรายอาจลอกเป็นขุย แสบ สิวขึ้น โดยสาเหตุอาจเกิดจากเกราะป้องกันผิวมีความอ่อนแอ เพราะขาดเซราไมด์ หรือบางคนอาจเป็นผลข้างเคียงจากโรคภูมิแพ้ การใช้ยาบางชนิดหรือเครื่องสำอาง เป็นต้น
เมื่อลองสังเกตผิวของเราแล้วว่าเป็นผิวหน้าประเภทไหน ต่อไปจะเป็นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะแก่ผิวแต่ละประเภท
ผิวแต่ละประเภทควรเลือกผลิตภัณฑ์แบบใด ?
1.ผิวแห้ง การเลือกครีมบำรุงผิวของคนผิวแห้ง ไม่ว่าผิวหน้าหรือผิวกาย ควรเป็นการเน้นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้น และการกักเก็บความชุ่มชื้นของใบหน้า จึงต้องเน้นสูตรที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นหลัก รวมถึงสารให้ความชุ่มชื้นชนิดอื่น ๆ อาทิเช่น Kamedis Calm Intense Moisture Cream ที่เติมความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวที่แห้ง ระคายเคืองและคัน เสริมชั้นผิวให้แข็งแรงเพื่อสุขภาพผิวที่ดีอย่างยั่งยืน
2. ผิวมัน การเลือกครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับคนผิวมัน แนะนำให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมในการช่วยควบคุมความมัน หรือผลิตภัณฑ์ที่สามารถดูดซับความมันบนผิวพรรณในจุดที่พบปัญหา ตัวอย่างเช่น Kamedis AC-CLEAR FACE CREAM ที่ออกแบบมาเพื่อปรับสมดุลการผลิตซีบัม(น้ำมัน)ของผิว ช่วยลดปัญหาสิวของผู้ที่มีผิวมัน พร้อมป้องกันการกลับมา
3. ผิวผสม ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สามารถเปลี่ยนไปได้ตามลักษณะของผิวบริเวณนั้น ๆ ซึ่งผิวผสมอาจมีการเลือกใช้ทั้งตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นต่อผิว และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ลดความมันควบคู่ด้วยเพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้อง
4. ผิวปกติ สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรใดก็ได้ขึ้นอยู่กับความชอบ หรือสังเกตเห็นผิวหน้าของตนเองแล้วอยากบำรุงเพิ่มเติม ทั้งนี้ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมปลอดภัยและไม่เกิดอาการแพ้ต่อผิวในภายหลัง
5. ผิวแพ้ง่าย เป็นผิวประเภทที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่แบรนด์หรือผลิตภัณฑ์เฉพาะทางโดยเฉพาะ มีความอ่อนโยนต่อผิวบอบบาง ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี แอลกอฮอล์ พาราเบน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพ้ อาทิเช่น Kamedis Sebo Skin T-Zone Cleanser หรือ Kamedis Sebo Skin T-Zone Cream ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะ อ่อนโยนสำหรับผิวหน้า และช่วยลดความมันบนใบหน้าร่วมด้วย
ทั้งนี้ อยากให้ทุกคนลองสังเกตดูว่าตัวคุณมีประเภทผิวแบบไหน เพื่อจะได้เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงได้อย่างถูกต้อง ซึ่ง Kamedis ก็มีตัวเลือกหลายรูปแบบเหมาะกับทุกสภาพผิว เพิ่มเติมความมั่นใจให้คุณยังคงสวยสมวัย ผิวดูดีดั่งใจปรารถนาไม่เปลี่ยน