ตุ่มแดงตามตัว ใช่สิวหรือไม่ และมีวิธีรักษาอย่างไร ?

ตุ่มแดงๆ ขึ้นตามตัว ใช่สิวหรือไม่? และเกิดจากสาเหตุใด?

หลายคนอาจเคยเจอกับปัญหาตุ่มแดงๆ ที่ขึ้นตามตัว แล้วสงสัยว่าสิ่งนี้คือสิวหรือไม่? และเกิดจากสาเหตุใด? ไม่เพียงแค่สร้างความสงสัยเท่านั้น เพราะเจ้าตุ่มแดงๆ ที่ขึ้นมานั้นยังส่งผลต่อความรู้สึกไม่มั่นใจได้อีกด้วย เพื่อให้รู้ทันถึงปัญหาและหาวิธีรักษาได้อย่างเหมาะสม ในบทความนี้เราจะพาไปดูกันว่าตุ่มแดงๆ ที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไร และมีวิธีจัดการได้อย่างไรบ้าง 

ตุ่มแดงๆ บนผิวหนัง ใช่สิวหรือไม่?

ตุ่มแดงที่ขึ้นตามตัวอาจมีลักษณะคล้ายสิว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นสิวเสมอไป โดยทั่วไปแล้ว สิวจะเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ร่วมกับการติดเชื้อแบคทีเรีย P. acnes ซึ่งมักพบบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น ใบหน้า หลัง อก และไหล่ อย่างไรก็ตาม ตุ่มแดงๆ ที่ขึ้นตามร่างกาย อาจเกิดจากปัจจัยอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิว เช่น

• ผื่นแพ้ (Allergic Rash)

• ผดร้อน (Heat Rash)

• ผื่นจากเชื้อรา (Fungal Infection)

• ผื่นลมพิษ (Urticaria)

• ตุ่มจากแมลงกัดต่อย

• โรคผิวหนังอื่นๆ เช่น โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคผิวหนังอักเสบ

สาเหตุที่ทำให้เกิดตุ่มแดงๆ ตามตัว

1. การแพ้สารระคายเคือง
การแพ้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว โลชั่น น้ำหอม หรือสารเคมีจากน้ำยาซักผ้า สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดผื่นแพ้ที่มีลักษณะเป็นตุ่มแดง คัน หรืออักเสบ

2. การอุดตันของรูขุมขน
เหงื่อ ความมัน หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสมอยู่ที่รูขุมขน อาจทำให้เกิดสิวที่หลังหรือหน้าอกได้เช่นเดียวกับสิวบนใบหน้า และยังมีโอกาสที่จะกลายเป็นสิวอักเสบได้อีกด้วย  

3. การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา
เชื้อแบคทีเรีย เช่น Staphylococcus หรือเชื้อรา เช่น Malassezia อาจทำให้เกิดตุ่มแดง คัน และอักเสบได้ โดยเฉพาะในบริเวณที่อับชื้น

4. ผดร้อน 
อากาศร้อนหรือเหงื่อออกมากเกินไป อาจทำให้รูขุมขนอุดตัน ส่งผลให้เกิดตุ่มแดงเล็กๆ คัน ซึ่งพบบ่อยในเด็กเล็กและผู้ที่ออกกำลังกายหนัก แต่ผดร้อนมักมาพร้อมกับอาการคันระคายเคือง บางคนยิ่งเกายิ่งทำให้ผดลุกลามและกลายเป็นแผลอักเสบได้

5. การแพ้แมลงกัดต่อย
ยุง มด หรือแมลงบางชนิดสามารถทำให้เกิดตุ่มแดง บวม และคันได้ อาการนี้มักเกิดขึ้นทันทีหลังถูกกัด อาจสังเกตได้ว่ามักจะเกิดขึ้นหลังจากที่อยู่ในบริเวณที่มียุงหรือแมลงจำนวนมาก

6. โรคผิวหนังบางชนิด

บางคนอาจไม่รู้ว่ากำลังเผชิญกับโรคผิวหนังอักเสบ หรือโรคสะเก็ดเงิน เพราะสองโรคนี้ในช่วงอาการเริ่มต้นก็มักจะมีตุ่มแดงเป็นเม็ดเล็กๆ ให้เห็นเช่นเดียวกับสิว และหากไม่ได้รับการรักษาก็จะค่อยๆ มีอาการของโรคที่ชัดมากขึ้น

วิธีดูแลและรักษาตุ่มแดงบนผิวหนัง 

สำหรับคนที่มีตุ่มแดงเกิดขึ้นตามตัว แนะนำให้ลองใช้วิธีต่อไปนี้ในการดูแลและรักษาที่เหมาะสม

• สังเกตอาการ : หากตุ่มแดงไม่ลดลงภายใน 2-3 วัน หรือมีอาการอักเสบรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์

• หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง : งดหรือหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้แพ้ เช่น น้ำหอม หรือสบู่ที่มีสารเคมีแรง

• รักษาความสะอาดของผิวหนัง : อาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยใช้สบู่อ่อนโยนและหลีกเลี่ยงการขัดถูแรงๆ

• หลีกเลี่ยงการแกะหรือเกาตุ่มแดง : เพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นหรือการติดเชื้อ 

• ใช้ยาแก้แพ้หรือครีมบำรุงที่เหมาะสม : หากมีอาการคัน อาจใช้ยาแก้แพ้ หรือครีมที่ช่วยลดการอักเสบ 

• ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง : หากตุ่มแดงเกิดขึ้นบ่อย หรือไม่หายเอง ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

ตุ่มแดงที่ขึ้นตามตัวอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ใช่แค่สิวเท่านั้น แต่อาจเป็นผื่นแพ้ ผดร้อน การติดเชื้อ หรือโรคผิวหนังอื่นๆ หากอาการไม่รุนแรงสามารถดูแลเบื้องต้นได้ แต่หากมีอาการแย่ลง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อการรักษาที่เหมาะสม

สำหรับคนที่ผิวบอบบาง แพ้ง่าย หรือมีตุ่มแดงเกิดขึ้นเป็นประจำ การปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการดูแลผิวอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพื่อปรับสมดุลให้กับผิว สามารถเลือกชมผลิตภัณฑ์ของ Kamedis ที่มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรับรอง และเลือกใช้ส่วนผสมที่ปลอดภัย อ่อนโยน และเป็นมิตรต่อผิวโดยเฉพาะ