0
Your Cart

ส้นเท้าแตก เกิดจากอะไร ปัญหาน่ารำคาญใจที่ต้องรู้วิธีแก้ไข

ปัญหาส้นเท้าแตกเป็นสิ่งที่สามารถพบเจอได้ บางคนอาจมองเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กับอีกหลายคนนี่คือปัญหาใหญ่ที่ต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วนมากที่สุด เพราะนอกจากทำให้ฝ่าเท้าไม่สวยแล้ว เวลาเท้าสัมผัสกับพื้นผิวต่าง ๆ ยังมักรู้สึกสากเท้า หรือบางคนรู้สึกเจ็บบริเวณที่ผิวแตกไปจนถึงเกิดการติดเชื้อลุกลามใหญ่โตอีกด้วย ลองมาศึกษากันว่าส้นเท้าแตก เกิดจากอะไร และสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ยังไงบ้าง

ส้นเท้าแตก คืออะไร?

ส้นเท้าแตก คือ ภาวะของผิวหนังกำพร้าบริเวณส้นเท้ามีลักษณะหยาบ แห้ง แข็ง และแตกระแหงเป็นร่อง หรือแยกออกเป็นแผ่น อาการเริ่มแรกมักเป็นแค่เล็กน้อยแต่เมื่อปล่อยไว้รอยดังกล่าวจะค่อย ๆ ขยายตัวมากขึ้นเนื่องจากถูกเสียดสี ถูกกดทับการการใช้ชีวิตประจำวัน หากรอยแตกลึกลงไปถึงชั้นผิวด้านในก็มักมีเลือกออกซิบ ๆ รู้สึกเจ็บ แสบ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโดยเฉพาะผู้ทีมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน

ส้นเท้าแตก เกิดจากสาเหตุอะไร?

ส้นเท้าแตกเกิดจากภาวะผิดปกติบางประการของร่างกาย เช่น การขาดน้ำ ดื่มน้ำไม่เพียงพอในแต่ละวัน การมีเคราตินในร่างกายมากเกินไป บางรายอาจมีสาเหตุจากกรรมพันธุ์ เกิดจากผลข้างเคียงของโรคประจำตัว เช่น โรคข้ออักเสบเรื้อรัง โรคเบาหวาน อายุเพิ่มขึ้นความชุ่มชื้นของผิวหนังจึงลดลง

ไปจนถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ผิวหนังบริเวณส้นเท้าแห้งได้ง่าย อาทิ การแช่เท้าในน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเป็นประจำ การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ส่งผลให้ผิวแห้งขึ้น ชอบเดินเท้าเปล่า ใส่รองเท้าพื้นหนาและแข็ง ไปจนถึงการแพ้สารเคมีบางประเภทที่เท้าสัมผัส เช่น แพ้ปูนซีเมนต์ เป็นต้น

วิธีแก้ปัญหาบอกลาส้นเท้าแตกได้อย่างน่าประทับใจ

  • การเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกายด้วยวิธีดื่มน้ำอย่างเพียงพอเฉลี่ยวันละ 8-10 แก้ว หรือ 2 ลิตร
  • อาบน้ำด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้ผิวแห้ง
  • ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตใหม่ เช่น ไม่เดินเท้าเปล่า เลือกรองเท้าที่มีพื้นนิ่ม ไม่แข็งมากไป ขนาดพอดีกับเท้าของตนเอง
  • การทาครีมบำรุงเพื่อช่วยลดปัญหาส้นเท้าแตก

หากคุณเองเป็นคนหนึ่งที่กำลังเจอปัญหาส้นเท้าแตก และกำลังมองหาผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณดังกล่าว ขอแนะนำ “Kamedis Dry Skin Hydrating Foot Gel” อัดแน่นด้วยส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ 4 ชนิด จึงพร้อมช่วยปรับสมดุลให้กับส้นเท้า ลดปัญหาการระคายเคือง เท้าชุ่มชื้นมากขึ้น ที่สำคัญเนื้อเจลซึมซาบเร็วมาก ไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้งานได้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ รวมถึงผู้ป่วยโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคเบาหวาน แนะนำให้ใช้ทุกวันในปริมาณเหมาะสม วันละ 1-3 ครั้ง ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะดีต่อตนเองอย่างแน่นอน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *