เนื้อครีม กับเนื้อเจล แตกต่างกันอย่างไร? และควรใช้ผลิตภัณฑ์ตัวใดให้เหมาะกับผิว
ปัจจุบันสกินแคร์กลายเป็นส่วนสำคัญในการดูแลผิว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวถือเป็นปัจจัยที่สำคัญ ซึ่งปัญหาของการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอาจต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง เนื้อครีมกับเนื้อเจล โดยที่หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่าต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทไหนให้เหมาะสมกับผิวของตัวเอง
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับทั้งสองประเภทนี้ พร้อมข้อดีข้อเสียและวิธีการเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวให้มากที่สุดกัน
1.เนื้อครีม (Cream)
เนื้อครีมเป็นหนึ่งในรูปแบบของสกินแคร์ที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้อย่างดี เนื้อครีมมีส่วนประกอบหลักคือ น้ำและน้ำมัน ซึ่งทำให้มีความหนืดและให้สัมผัสที่แน่นขึ้นเมื่อทาลงบนผิว นอกจากนี้ยังสามารถช่วยในการปกป้องผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื้นในระหว่างวันได้ดี
ข้อดีของเนื้อครีม
- ให้ความชุ่มชื้นได้ดี เนื้อครีมเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง หรือผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ
- ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น ครีมจะช่วยสร้างเกราะป้องกันให้กับผิว ทำให้ความชุ่มชื้นไม่หายไป
- บำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก เนื้อครีมสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างลึกซึ้ง ช่วยบำรุงผิวในระดับที่ดี
ข้อเสียของเนื้อครีม
- อาจรู้สึกหนักผิว สำหรับผู้ที่มีผิวมัน หรือผิวแพ้ง่าย การใช้ครีมอาจทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ
- อาจไม่เหมาะกับอากาศร้อน ในสภาพอากาศร้อนหรือชื้น ครีมอาจทำให้รู้สึกหนักผิวมากเกินไป
2. เนื้อเจล (Gel)
เนื้อเจลเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะบางเบากว่าครีม โดยเนื้อเจลจะมีส่วนผสมของน้ำเป็นหลัก มีคุณสมบัติที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและซึมซาบเร็วโดยไม่ทิ้งความมันไว้บนผิว ทำให้เนื้อเจลเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสม
ข้อดีของเนื้อเจล
- บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เนื้อเจลเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความรู้สึกหนักหน้าหรือมันเยิ้มหลังทา
- เหมาะกับผิวมันและผิวผสม เจลจะช่วยให้ความชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มความมันให้กับผิว
- ซึมเร็ว เนื้อเจลซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่ทิ้งความรู้สึกมันหรือเหนียวเหนอะหนะ
- เหมาะกับอากาศร้อน เนื้อเจลมักให้ความรู้สึกเย็นสบาย เหมาะสำหรับการใช้ในสภาพอากาศร้อน
ข้อเสียของเนื้อเจล
- อาจไม่ให้ความชุ่มชื้นเพียงพอในบางกรณี สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำ อาจต้องใช้ผลิตภัณฑ์เสริมเพื่อให้ความชุ่มชื้นได้มากขึ้น
- บางครั้งอาจรู้สึกแห้งหลังการใช้งาน บางประเภทของเจลอาจทำให้ผิวรู้สึกแห้งหรือตึงผิวมากเกินไปหลังการใช้
ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใดให้เหมาะกับผิว ?
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทครีมหรือเจลนั้นควรขึ้นอยู่กับลักษณะของผิวของแต่ละคน การเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวจะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ทำให้ผิวรู้สึกหนักหรือแห้งจนเกินไป ดังนี้
• ผิวแห้ง : ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อครีม เพราะครีมจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดี และยังช่วยล็อกน้ำหล่อเลี้ยงผิว
• ผิวมันหรือผิวผสม : สำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสม ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อเจล เนื่องจากเนื้อเจลจะไม่ทำให้ผิวมันหรือรู้สึกหนักหน้า
• ผิวแพ้ง่าย : ทั้งเนื้อครีมและเนื้อเจลสามารถใช้ได้ แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีที่รุนแรง เพื่อป้องกันการระคายเคือง
• สภาพอากาศร้อน : เนื้อเจลมักจะเหมาะกับสภาพอากาศร้อน เพราะให้ความรู้สึกสดชื่นและไม่หนักหน้า
ทั้ง เนื้อครีม และ เนื้อเจล ต่างก็มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับผิวแต่ละประเภท การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ควรพิจารณาจากลักษณะผิวของตัวเอง รวมถึงสภาพอากาศและความต้องการของผิว เช่น หากต้องการความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก เนื้อครีมก็อาจเหมาะสม แต่หากต้องการความสดชื่นและไม่หนักผิว เนื้อเจลก็เป็นตัวเลือกที่ดีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ผิวของคุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุด ไม่เพียงแต่ทำให้ผิวดูดี แต่ยังช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจในทุกวัน
สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยดีๆ ในการบำรุงและฟื้นฟูปัญหาผิว Kamedis มีผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาผิวโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม พร้อมบำรุงผิวหน้าจากส่วนผสมของสมุนไพรหลายชนิดที่สกัดจากธรรมชาติ ช่วยลดอาการแพ้ ระคายเคือง และให้ผลลัพธ์ได้เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง